โอฮาระ เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมอยู่ห่างจากเกียวโตไปทางเหนือ แค่ 20 นาทีด้วยรถบัสสาย 19 จากสถานี Kokusaikaikan Station หรือ 60 นาทีจากสถานี Kyoto Station ด้วยรถบัสสาย 17 โอฮาราเป็นแหล่งรวมวัดเก่าแก่บนหุบเขา มีธรรมชาติที่สวยงาม ความสงบดีต่อใจของที่นี่ ทำให้ได้เห็นผู้สูงอายุและหญิงสาวเที่ยวคนเดียวอยู่หลายคน
เนื่องด้วยก่อนหน้าไม่กี่วันกล้องคู่ใจเสีย ทริปนี้เลยถ่ายรูปจากมือถือ เป็นบทเรียนในการปล่อยวางของตัวเองได้ดีทีเดียว ภาพไม่สวยดั่งใจ ทำให้ถ่ายรูปน้อยลง แต่ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัวมากขึ้น
เดินลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ไปใส่ไว้ในล็อคเกอร์ที่สถานี Karasuma Oike ใกล้โรงแรมเดิม แล้วนั่งรถไฟ Karasuma line ไปลงสถานีสุดท้ายชื่อ Kokusaikaikan Station ต่อด้วยรถบัสสาย 19 ไปโอฮาระ
จากสถานีรถบัส เดินตามแผนที่ไป 5 นาทีก็ถึง Ryoso Chatani เกสต์เฮาส์ที่จองไว้หลายเดือนก่อน เจ้าของบ้านออกมาต้อนรับ ฝากกระเป๋าแล้วเดินสำรวจหมู่บ้าน เป้าหมายคือ ซุปเปอร์มาร์เก็ตสักแห่ง
ระหว่างทาง เดินผ่านสวนสาธารณะริมแม่น้ำ Takano ที่ไม่ได้อยู่ในแผนเที่ยว แต่พวกเราก็หยุดพักอยู่ที่นี่เป็นชั่วโมง ลูกเพลินกับการเล่นน้ำเล่นก้อนหินจนไม่อยากกลับ นอกจากพวกเราแล้วก็มีครอบครัวชาวญี่ปุ่นอีก 2-3 ครอบครัว
รอบหมู่บ้านเต็มไปด้วยทุ่งนา และแปลงผัก
มีสถานีตำรวจและซุปเปอร์มาร์เก็ตเคลื่อนที่
ห้องพักของพวกเราอยู่ชั้นสอง พื้นปูด้วยเสื่อทาทามิ เวลาจะนอนต้องเอาที่นอนออกจากตู้มาปูนอนเอง ฟูกแน่นนอนสบายทีเดียว มีห้องน้ำและห้องออนเซ็นแยกหญิงชายอยู่ชั้นล่าง นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลองออนเซ็น อารมณ์กล้าๆ กลัวๆ หวังว่าจะไม่มีใครเข้ามา แต่สุดท้ายก็ชินกับการแช่บ่อน้ำร้อนร่วมกับผู้สูงวัยแปลกหน้า
อาหารที่นี่อร่อยและจัดเต็ม ผักเก็บมาสด ๆ จากสวน มื้อเย็นเป็นหม้อไฟร้อนที่อร่อยสมคำร่ำลือจากรีวิวในอินเตอร์เน็ต ติดใจเมนูเต้าหู้อ่อนราดซอส คุณลุงเจ้าของบ้านก็ใจดีบอกเคล็ดลับอย่างไม่หวงสูตร เป็นโรงแรมที่เรียบง่าย ไม่หรูหราอะไร แต่ความรู้สึกดี ๆ นั้นให้มาเต็ม ๆ
พวกเราใช้เวลา 1 วันในการเดินขึ้นเขา เยี่ยมชมวัดวา แม้ไม่ได้แวะวัดในหมู่บ้านทั้งหมด 8 วัด แต่ก็อิ่มใจมาก วัดที่ชอบที่สุด คือ วัด Raigo-in เป็นวัดเก่าแก่ของนิกายเทนได ถูกบูรณะซ่อมแซมในค.ศ. 1109 โดยพระ Ryonin สมัยนั้นที่นี่เป็นศูนย์ที่พระมาฝึกสวด Shomyo
Raigo-in เป็นวัดเล็กๆ ที่เงียบสงบมาก มีคนเข้าชมน้อยที่สุดเทียบกับวัดอื่นๆ ในละแวก อาคารไม้เก่าแก่ศตวรรษที่ 16 ที่สร้างแทนอาคารเดิมที่ถูกไฟไหม้ในปีค.ศ. 1426 ทำให้รู้สึกเหมือนว่ากำลังเดินอยู่ในอดีต
จากวัด Raigo-in เดินไม่ไกลก็ถึง น้ำตกไร้เสียง (Otonashi-no-taki) เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ทำให้สงสัยว่าไร้เสียงตรงไหน ตามตำนานเล่าว่า พระ Ryonin จากวัด Raigo-in ได้มาสวด Shomyo ที่นี่ จนเสียงน้ำตกหายไป พยายามลองจินตนาการว่าจะได้ยินเสียงน้ำตกแบบไหนถ้าทำสมาธิได้ถึงขั้นนั้น ตอนเดินออกจากน้ำตกมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียถามว่าน้ำตกไปทางไหน และไร้เสียงจริงหรือเปล่า
วัดต่อมาคือ วัด Jakko-in เป็นวัดแม่ชีในนิกายเทนได สร้างขึ้นในค.ศ. 594 แม่ชีคนแรกที่อาศัยที่นี่คือเจ้าหญิง Tamateru ซึ่งบวชในปีค.ศ. 548 และเป็นหนึ่งในแม่ชี 3 คนแรกของประเทศญี่ปุ่น วัด Jakko-in ยังเป็นสถานรีทรีทสำหรับเจ้าหญิงหลายๆ รุ่น
ที่นี่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้และสวนอันร่มรื่น รู้สึกถึงความปราณีตในการวางรูปปั้นในตำแหน่งที่แสงส่อง
(เดินทาง ปลาย May, 2018)